วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2562

การสร้างบทเรียนแบบบูรณาการ


การสอนตามรูปแบบที่  1  (Infusion  Instruction)  และรูปแบบที่  2  (Parallel  Instruction)  มี  2  วิธีคือ

วิธีที่หนึ่ง  เลือกหัวเรื่อง (Theme)  ก่อนแล้วดำเนินการพัฒนาหัวเรื่องให้สมบูรณ์  มีกำหนดวัตถุประสงค์ของกิจกรรมให้ชัดเจน  กำหนดแหล่งข้อมูลหรือทรัพยากรที่จะใช้ในการค้นคว้าและเรียนรู้และพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนและอื่นๆ  ตามลำดับ

 วิธีที่สอง  เลือกจุดประสงค์รายวิชาจาก  2  รายวิชาขึ้นไปก่อน  แล้วนำมาสร้างเป็นหัวเรื่อง  (Theme)  ที่ร่วมกันระหว่างจุดประสงค์ที่เลือกไว้กำหนดแหล่งข้อมูลหรือทรัพยากรที่ใช้ในการค้นคว้าและเรียนรู้และพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนและอื่นๆ  ตามลำดับ

                มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 วิธีที่หนึ่ง  เลือกหัวเรื่องก่อน

ขั้นที่  1  เลือกหัวเรื่อง  (Theme)  โดยวิธีต่อไปนี้

1.       ระดมสมองของครูและนักเรียน

2.       เน้นที่การสอดคล้องกับชีวิตจริง

3.       ศึกษาเอกสารต่างๆ

4.       ทำหัวเรื่องให้แคบลงโดยคำนึงถึงความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับชีวิตจริงความสะดวกในการเชื่อมโยงระหว่างวิชาความรู้  และความสนใจของนักเรียน

 ขั้นที่  2  พัฒนาหัวเรื่อง  (Theme)  ดังนี้

1.       เขียนวัตถุประสงค์โดยกำหนดความรู้และความสามารถที่ต้องการ  จะให้เกิดแก่ผู้เรียน  เขียนวัตถุประสงค์ในลักษณะที่จะช่วยให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างวิชา  กำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนเพื่อนำไปสู่กิจกรรม

2.       กำหนดเวลาในการสอนให้เหมาะสมกับกำหนดเวลาต่างๆ  ตามปฏิทินของโรงเรียน  เช่น  จำสอนเมื่อใด  ใช้เวลาเท่าไร  ยืดหยุ่นได้หรือไม่  ต้องใช้เวลาออกสำรวจหรือทำกิจกรรมนอกห้องเรียนหรือไม่  ฯลฯ

3.       จองเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในการกระทำกิจกรรม

 ขั้นที่  3  ระบุทรัพยากรที่ต้องการ  ควรคำนึงถึงทรัพยากรที่หาได้ง่าย  แล้วติดต่อแหล่งทรัพยากร

       ขั้นที่  4  พัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน  ดังนี้

1.       พัฒนากิจกรรมที่ช่วยให้เกิดความเชื่อมโยงกับเนื้อหาวิชาอื่น

2.       ตั้งจุดมุ่งหมายของกิจกรรมให้ชัดเจน

3.       เลือกวิธีที่ครูวิชาต่างๆ  จะทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างวิชา

4.       เลือกวิธีการสอนที่จะใช้

5.       สร้างเอกสารแนะนำการปฏิบัติกิจกรรม

6.       สิ่งที่ครูควรจะต้องเตรียมล่วงหน้าอาจประกอบด้วยสิงต่อไปนี้

-          ใบความรู้

-          ใบงาน

-          แบบบันทึก (ซึ่งอาจเป็นแบบที่ครูออกแบบให้เลย  หรืออาจเป็นแบบบันทึกที่นักเรียนจะต้องช่วยกันออกแบบก็ได้)

-          สื่อและอุปกรณ์อื่นๆ

-          แบบประเมิน

-          ฯลฯ

-          พยายามปฏิบัติตามแผนที่วางไว้  แต่อาจปรับกิจกรรมตามความสนใจของนักเรียน

-          ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตลอดหน่วยการเรียน

-          ร่วมมือกับครูคนอื่น  มีการพบกันเป็นระยะเพื่อตรวจสอบความก้าวหน้า

ขั้นที่  6  ประเมินความก้าวหน้าของนักเรียน   โดยครูควรกระทำตลอดเวลาเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงงานครูอาจให้นักเรียนประเมินผลตนเองก็ได้ครูควรใช้วิธีประเมินผลที่หลากหลายและให้สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริง  เช่น  สังเกตวิธีการและขั้นตอนในการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนตรวจผลงาน  ทอสอบ ประเมินจากการนำเสนอรายงานหรือผลงานของนักเรียน  ประเมินจากการนิทรรศการของนักเรียน  การสัมภาษณ์นักเรียน ฯลฯ

                ขั้นที่  7  ประเมินกิจกรรมการเรียนการสอน  โดยครูสำรวจจุดเด่น-จุดด้อย  ของกิจกรรม  แล้วบันทึกไว้เพื่อนำไปปรับปรุง

                ขั้นที่  8  แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างครูด้วยกันเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนากิจกรรมในครั้งต่อๆไป

                วิธีที่สอง  เลือกจุดประสงค์การเรียนรู้ก่อน

                ขั้นที่  1  เลือกจุดประสงค์การเรียนรู้จาก  2  รายวิชาขึ้นไปที่จะนำมาบูรณาการกันโดยจะต้องพิจารณาว่าจุดประสงค์นั้น ๆ เกี่ยวข้องกันหรือไม่  และเกี่ยวข้องกันอย่างไร  ถ้าหากมีความสัมพันธ์เกี่ยวกันหรือไปด้วยกันได้ จึงนำมาบูรณาการกัน

                ขั้นที่  2  นำจุดประสงค์ดังกล่าวในขั้นตอนที่  1  มาสร้างเป็นหัวเรื่อง (Theme)  ที่ร่วมกันระหว่างจุดประสงค์ที่เลือกไว้

                ขั้นที่  3  ระบุทรัพยากรที่ต้องการ

                ขั้นที่  4  พัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน

                ขั้นที่  5  ดำเนินการตามกิจกรรมการเรียนการสอนที่เตรียมไว้

                ขั้นที่  6  ประเมินความก้าวหน้าของนักเรียน

                ขั้นที่  7  ประเมินกิจกรรมการเรียนการสอน

                ขั้นที่  8  แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างครูด้วยกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การวัดและประเมินผลทางการศึกษา

ความหมายของคำว่า การประเมินผล ( Evaluation)  ได้มีผู้ให้ความหมายไว้ ดังนี้             ชวาล แพรัตกุล  (2516 : 140) กล่าวว่า การประเมินผล ...